วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ปัญหาของวัยรุ่นในสังคมไทย




ปัญหาของวัยรุ่นในสังคมไทย


       ปัจจุบันปัญหาของวัยรุ่นในสังคมไทยรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้น  เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั้งด้านกายภาพ  เศรษฐกิจและสังคมเมือง  ประกอบกับวัยรุ่นเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเจริญเติบโตมีความเปลี่ยนแปลงด้านร่างกาย  จิตใจ  และอารมณ์  ทำให้วัยรุ่นประสบปัญหามากมาย  เช่น  ปัญหาเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ปัญหาการทำแท้ง  ปัญหาโรคเอดส์  ปัญหาความรุนแรง  เป็นต้น   ทั้งนี้ปัญหาที่สำคัญของวัยรุ่นในปัจจุบัน  ได้แก่  ปัญหายาเสพติด  ปัญหาที่เกิดจากการขาดความเข้าใจต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพร่างกาย  และปัญหาความรุนแรง  ซึ่งมีสาเหตุสำคัญจากปัญหาครอบครัว  สภาพแวดล้อมใกล้ตัวที่ชักจูงไปในทางไม่ดี   และการใช้ความรุนแรงในสังคม






                                                                               ที่มา : http://www.pccl.ac.th

ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น



ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น

        ในปัจจุบันสังคมของประเทศก้าวเข้าสู่ยุคโลกาภิวัตน์ ข้อมูลข่าวสารของโลกสมัยใหม่แพร่กระจายสู่สังคมต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้อิทธิพลของวัฒนธรรมตะวันตกได้ครอบงำวิถีชีวิตของวัยรุ่นไทยจำนวนไม่น้อยทั้งในด้านการรับประทานอาหารฟาสท์ฟูด การแต่งกาย การคบเพื่อนต่างเพศ สังคมของวัยรุ่นไทยกลายเป็นสังคมบริโภคที่แทบจะไม่มีประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ ที่สำคัญของสังคมเหล่านี้อีกประการหนึ่งก็คือการมีเพศสัมพันธ์แบบเสรี จนนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรและปัญหาการตั้งครรภ์ตามมา
        การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรของวัยรุ่นส่วนหนึ่งจะมาจากปัญหาภายในครอบครัวและปัญหาการขาดแคลนโอกาสในการศึกษา จากสถิติของกรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุข พบว่าอัตราการตั้งครรภ์ในแม่ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีมีมากถึงร้อยละ 14.7 ซึ่งมากกว่าเกณฑ์มาตรฐานขององค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ที่จะต้องไม่เกินร้อยละ 10 นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อปัญหาอัตราทารกแรกเกิดมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ 2,500 กรัม (2.5 กิโลกรัม) ที่พบมากถึงร้อยละ 8.7 ซึ่งมากกว่ามาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้จะต้องไม่เกินร้อยละ 7 ในขณะนี้ประเทศไทยมีการคลอดบุตรจากแม่ที่เป็นวัยรุ่นวันละประมาณ 140 ราย หรือประมาณปีละ 50,000 ราย ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงมาก แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์การตั้งครรภ์ในวัยรุ่นเป็นปัญหาที่รุนแรงของสังคม เพราะส่งผลให้คุณภาพชีวิตของทารกลดลงส่วนแม่วัยรุ่นมีปัญหาต่าง ๆ มากมาย เช่น สภาวะทางอารมณ์ไม่มั่นคงจึงมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดความเครียดและภาวะซึมเศร้าเพราะต้องการปกปิดเรื่องการตั้งครรภ์หรือการมีลูกต่อผู้ปกครอง นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องการเรียนและการทำแท้งอีกด้วย
          การที่วัยรุ่นหนุ่มสาวมีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้นอาจเนื่องมาจากการได้รับการเลี้ยงดูด้วยการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการต่อร่างกายจึงทำให้พัฒนาการทางเพศเป็นไปอย่างรวดเร็วด้วย โดยเด็กจะเจริญเป็นหนุ่มสาวเร็วขึ้น เด็กผู้หญิงมีประจำเดือนหรือตกไข่เร็วขึ้น ส่วนเด็กชายก็มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศเร็วขึ้น การพัฒนาที่เปลี่ยนแปลงของร่างกายของเด็กชายและหญิงดังกล่าวจึงนำมาสู่การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรนั่นเอง

           การที่เด็กมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรก่อให้เกิดผลเสียต่าง ๆ มากมายดังกล่าวมาแล้ว ดังนั้นผู้ปกครองจึงต้องมีส่วนร่วมอย่างสำคัญในการอบรมสั่งสอนให้บุตรหลานได้ประพฤติปฏิบัติตนในทางที่ถูกที่ควร การคบเพื่อนต่างเพศเป็นสิ่งที่ทำได้ แต่ต้องเป็นไปในทางที่ถูกต้องและเหมาะสม ผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัวเพื่อจักได้ไม่เกิดปัญหามีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร พฤติกรรมเหล่านี้ทุก ๆ ฝ่ายต้องทำให้เกิดขึ้นในวัยรุ่นให้ได้ เพื่อช่วยลดปัญหาการตั้งครรภ์ของวัยรุ่นไทย




                                                                                   ที่มา : http://www.med.cmu.ac.th



สาเหตุของปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น


สาเหตุของปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น


  • สาเหตุของการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น คือ
 1. ปัจจัยด้านพันธุกรรม พัฒนาการทางด้านร่างกายและจิตใจของวัยรุ่น การเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะฮอร์โมนในร่างกาย มีผลกระตุ้นให้มีความสนใจกับเพศตรงข้าม 
 2. เริ่มต้นตั้งแต่การแต่งตัวที่เปิดเผยมาก เสื้อที่เปิดให้เห็นเนินอกมากเกินไป กางเกงที่รัดมากเกินไป เน้
 3. วัยรุ่นขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องเพศ โดยเฉพาะในวัยรุ่นที่มีแฟนหรือคนรักหากไม่รู้จักการปฏิเสธเมื่อถูกขอ 
 4. การอยู่หอพัก อยู่ห่างจากพ่อแม่หรือผู้ปกครอง การเที่ยวในสถานเริงรมย์ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และการใช้สารเสพติด
 5. การอยู่ด้วยกันสองต่อสองระหว่างชายหญิงในที่ลับตาคน 
 6. สถาบันครอบครัวและศาสนา ที่ปัจจุบันได้อ่อนแอลง เด็กได้รับความอบอุ่นจากครอบครัวน้อยจากที่พ่อแม่ต้องวุ่นกับการทำงานเพื่อหาเงินเลี้ยงลูก หรือบางครอบครัวพ่อแม่มีปัญหาหย่าร้างต้องแยกทางกัน
 7.สื่อต่าง ๆ จำนวนมาก 
 8. สภาพสังคมที่ปัจจุบัน ผู้ชายหมกมุ่นและมีความต้องการทางเพศเพิ่มขึ้นจากสิ่งยั่วยุต่าง ๆ ทำให้ต้องมาลงกับเพศหญิง จนเป็นเหตุให้เกิดการคุกคามทางเพศ รุมโทรม และการข่มขืน จึงนำไปสู่ต่อการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร
 9. ปัญหาการขาดการอบรมกล่อมเกลาขาดความใกล้ชิดสนิทสนม ทั้งจากครอบครัวทั้งจากสังคมแวดล้อมจากสังคม 
 10. สภาพแวดล้อม เช่น การเห็นคนรอบข้างหรือเห็นคนที่อยู่ในชุมชนเดียวกันมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัย ก็จะเอาเป็นเยี่ยงอย่าง 
 11.การเลียนแบบพฤติกรรมตามกระแสตะวันตก อาทิ การจับคู่อยู่กิน การทำสถิตินอนกับผู้ชาย การมีเพศสัมพันธ์กับเพื่อน 
 13. วัยรุ่นมักหลงอยู่กับวัตถุนิยมมากเกินไป และชอบตามเพื่อน ยอมเสียตัวเพื่อแลกกับการได้เงิน

                                                                 ที่มา : /www.facebook.com/permalink.php

วิธีการป้องกันการท้องในวัยรุ่น


การป้องกันการตั้งครรภ์
  • การตั้งครรภ์ในสตรีวัยรุ่นก่อให้เกิดปัญหามากมาย ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม จิตวิทยา ความสำคัญอยู่ที่การป้องกัน ดูแลของพ่อแม่ ผู้ใกล้ชิด โดย
1          1.ผู้ปกครอง พ่อแม่ ต้อง ไม่สนับสนุนให้มีเพศสัมพันธ์ก่อนระยะเวลาอันควร ซึ่งต้องเน้นให้ตระหนักในปัญหาที่ตามมาและเรียนรู้จักการ ดูแล และควบคุมตัวเอง
2           2. ให้มีการสอนเพศศึกษาอย่างถูกต้อง ตามวัย ให้รักษาสิ่งที่มีค่ามากที่สุดในผู้หญิง เพศชายก็ให้ระวังเรื่องโรคเอดส์ และโรคติดเชื้ออื่นๆ รวมทั้งภาระ และปัญหาอื่นๆที่ต้องตามมาอาจจะเรียนไม่จบ อบรมสั่งสอนปลูกฝัง ตั้งแต่วัยยังเล็กๆ เช่นประถมต้น หรือปลาย สำคัญที่สุด โดยที่พ่อแม่ผู้ปกครองต้องมีความรู้ในการสอนเช่นกัน
3            3.ให้มีการปรึกษาหารือระหว่างผู้ปกครอง ครู เด็ก อย่างเปิดเผย จริงใจ
4            ผู้ปกครองต้องทำตัวเสมือนเพื่อน ดูแลใกล้ชิด ไม่ให้ห่าง ให้อยู่ในสายตาเรา หรือให้รู้ว่าทำอะไร อยู่ที่ไหน และ คอยสังเกตพฤติกรรม หรือ กิจกรรมต่างๆ ที่ได้ทำและการคบเพื่อนต่างเพศ เป็นใครมาจากไหน ,มีกิจกรรมทำอะไรกันบ้าง ควรรู้จักเพื่อนต่างเพศของลูกด้วย
5            4.คอยสอบถามความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนเพศตรงข้าม และความคิดต่อพฤติกรรมทางเพศของบุตรหลาน เช่นคิดอย่างไรที่มีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน หากลูกตอบว่าเป็นเรื่องธรรมดาก็น่าเป็นห่วง แต่หากลูกตอบว่าไม่เห็นด้วยก็น่ายินดี แต่ต้องคอยบอกกล่าวว่า จะไม่เปิดโอกาสให้อยู่กับเพื่อนต่างๆเพศ สองต่อสองในที่ ลับ และให้ระวัง ถูกกระทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศ หรือหลอกให้ดื่มเครื่องดื่มบางชนิด ที่ผสมแอลกอฮอล์ และการควบคุมอารมณ์ไม่ให้ตกอยู่ในห้วงของอารมณ์ใคร่
6            5.แนะนำ สอน และจัดหาเรื่องการคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินแก่วัยรุ่น เป็นอันสุดท้าย
7            6.ให้หลีกเลี่ยงเครื่องดื่ม ที่ผสม แอลกอฮอล์ ทุกชนิด เพราะจะทำให้ขาดสติ ทำอะไรไม่รู้ตัว
             7.เวลาไปเที่ยวกับใครที่ไหนก็ควรไปเป็นกลุ่ม
             8.ส่งเสริมการวางแผนครอบครัว ในการสอนสุขศึกษาในโรงเรียนเกี่ยวกับการวางแผนครอบครัวไม่เพียงแต่จะสอนถึงสิ่งที่ใช้คุมกำเนิดแต่ควรจะสอนวิธีการใช้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพด้วย


                                                                                  ที่มา : http://social-problem.blogspot.com/

การแก้ไขปัญหาวัยรุ่นท้องไม่พร้อม


การแก้ไขปัญหาวัยรุ่นท้องไม่พร้อม


        สามารถทำได้จากหลายทาง เช่น ครอบครัวควรให้ความรักและเอาใจใสบุตรหลานให้มาก ไม่ควรปล่อยให้เด็กอยู่กับตัวเองมากเกินไป สถาบันการศึกษาก็มีส่วนสำคัญมากเพราะเป็นที่ๆ เด็กใช้เวลาอยู่มากพอๆ กับอยู่บ้าน ควรจะสอนหรือแนะนำการใช้ชีวิตและวิธีการมีเพศสัมพันธ์รวมไปถึงการป้องกันอย่างละเอียด ถ้าทุกฝ่ายช่วยกันก็จะสามารถป้องกันปัญหาการท้องไม่พร้อมของเด็กวัยรุ่นได้มาก



                                                                                ที่มา : http://www.maerakluke.com

กฎหมายและการคุ้มครองคุณแม่วัยใส


UNFPA และ NESDB เปิดหนังสือ แม่วัยใส

  • UNFPA ร่วมกับ สศช. เปิดตัวหนังสือ "แม่วัยใส ความท้าทายการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น"
    กรุงเทพ, 13 มีนาคม พ.ศ. 2557 - กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย (UNFPA)ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เปิดตัวหนังสือ "แม่วัยใส ความท้าทายการตั้งครรภในวัยรุ่น" ซึ่งเป็นการรวบรวมข้อเท็จจริง และผลกระทบ รวมถึงแนวทางการแก้ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นอย่างรอบด้าน เพื่อให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตระหนักถึงปัญหาคุณแม่วัยใสอย่างจริงจัง 

   ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยของประเทศไทยจะเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้หญิงมีโอกาสทางการศึกษาและการประกอบอาชีพที่ดีขึ้น แต่กลับพบว่า จำนวนผู้หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี มีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยทุกวันจะมีผู้หญิงจำนวน 355 คนที่อายุน้อยกว่า 20 ปีคลอดบุตรในประเทศไทย และ 10 คนในจำนวนนั้นอายุน้อยกว่า 15 ปี

   กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่าในปี พ.ศ. 2555 มีการคลอดบุตรจำนวน 801,737 คน และจำนวน 129,451 คนเกิดจากคุณแม่อายุ 15-19 ปี ซึ่งมีจำนวน 2.4 ล้านคน นั่นหมายความว่า ผู้หญิงอายุ 15-19 ปีทุกๆ 1000 คน จะมีผู้หญิงจำนวน 54 คนในช่วงวัยเดียวกันที่กลายเป็นคุณแม่ ซึ่งเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นน่าตกใจเมื่อเทียบกับ 31.1 คนต่อ 1000 คนในปี พ.ศ. 2543 
ทั้งนี้ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ตั้งเป้าหมายว่าอีก 5 ปีข้างหน้า อัตราการคลอดในหญิงอายุ 15-19 ปี จะไม่เกิน 50 คนต่อ 1000 คนในประชากรวัยเดียวกัน
หนังสือ "แม่วัยใส ความท้าทายการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น" ซึ่งจัดพิมพ์โดยกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย ได้แสดงให้เห็นความท้าทายต่างๆของการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น และมุมมองของสังคมต่อคุณแม่วัยใส รวมถึงผลกระทบในมิติต่างๆ ต่อชีวิตของผู้หญิงที่เป็นคุณแม่วัยรุ่น อาทิ แผนการศึกษาต่อของคุณแม่วัยรุ่น ซึ่งมีความจำเป็นในการเตรียมตัวสำหรับอาชีพการงานและความเป็นอยู่ในอนาคต เป็นต้น รวมถึงผลกระทบในมิติต่างๆ เช่น ด้านสุขภาพ และโอกาสการทำงานของเด็กผู้หญิง รวมทั้งผลกระทบทางเศรษฐกิจของประเทศ

   หนังสือแม่วัยใส ยังแสดงให้เห็นถึงสาเหตุการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นว่า มีความซับซ้อนที่เกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความล้มเหลวในการให้นักเรียนผู้หญิงศึกษาต่อในโรงเรียนต่อไป การไม่สามารถเข้าถึงบริการอนามัยการเจริญพันธ์ การไม่สามารถบังคับใช้กฏหมายอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อคุ้มครองสิทธิของเด็กผู้หญิงวัยรุ่น รวมทั้งความเชื่อและทัศนคติของสังคมและชุมชนบางอย่างที่ทำให้เกิดการปฎิบัติที่ไม่เท่าเทียมกันระหว่างเพศหญิงและเพศชาย แต่เป็นที่น่าเสียดายว่ามาตรการการแก้ไขปัญหาคุณแม่วัยใสมักเน้นแก้ที่ปลายเหตุ และเน้นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเด็กผู้หญิงอย่างเดียว มองเด็กผู้หญิงเป็นตัวปัญหา โดยไม่พิจารณาถึงสิ่งแวดล้อมและปัจจัยรอบตัวที่มีผลทำให้เกิดปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น

  ในรายงานหนังสือแม่วัยใส ได้เสนอแนะหนทางเพื่อลดแนวโน้มการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น และเพื่อรักษาสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของและความเป็นอยู่ที่ดีของเด็กผู้หญิงเหมือนกับหลายๆภูมิภาคในโลกนี้ และเสนอให้มีการแก้ไขปัญหาทั้งระบบ โดยมุ่งแก้ไขที่ต้นเหตุ อย่างเช่น ให้มีการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมทางเพศ การส่งเสริมให้มีการศึกษาทางด้านเพศศึกษาอย่างรอบด้านสำหรับวัยรุ่นทั้งหญิงและชาย การแก้ไขค่านิยมเหมารวมทางสังคมและทัศนคติเชิงลบบางอย่าง รวมถึงการปรับปรุงแก้ไขกรอบกฎหมายเพื่อให้มั่นใจได้ว่าสิทธิของวัยรุ่นหญิงจะได้รับการคุ้มครอง
หนังสือแม่วัยใส เป็นอีกก้าวหนึ่งที่พยายามรวบรวมข้อมูล และนำเสนอข้อเท็จจริง รวมทั้งแนวทางแก้ปัญหาอย่างรอบด้าน โดยมุ่งหวังว่าหนังสือแม่วัยใส จะจุดประกายให้ทุกภาคส่วนของสังคมมาร่วมมือกันป้องกันและแก้ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นของประเทศให้ลดลง เพื่อให้วัยรุ่นทุกคนสามารถใช้ศักยภาพของตนได้อย่างสมบูรณ์

                                                ที่มา : http://countryoffice.unfpa.org/

ข่าวหรือเหตุการณ์เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น

ตะลึง'แม่วัยใส'มากถึง1.3แสนคน สลดโจ๋ไทยเล่นจ้ำจี้ตั้งแต่อายุ12ปี จวกผู้ใหญ่ปิดเรื่องเพศจนมีปัญหา


·         น่าตกใจเด็กไทยเริ่มมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่ 12 ขวบ และมีแนวโน้มอายุน้อยลง ขณะที่สถิติปี 2554 พบแม่วัยใสกว่า 1.3 แสนคน สาเหตุมาจากสื่อพ่อแม่ครูอาจารย์ ปิดหูปิดตา รับไม่ได้เรื่องเพศเห็นเป็นเรื่องสกปรก เด็กมัธยมที่อุดรฯ ติดเชื้อกามโรคสูงถึง 44 เปอร์เซ็นต์ของผู้ติดเชื้อ


ปัญหาหนึ่งที่กำลังเกิดขึ้นในสังคมไทย และดูเหมือนการแก้ปัญหาจะยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร คือ ปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ในวัยรุ่นไทย ซึ่งงานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า นอกจากจะไม่สามารถทำให้เยาวชนไทยเปลี่ยนแปลงความคิดในการมีเพศสัมพันธ์ในวัยที่เหมาะสมแล้ว กลับพบว่า ปัจจุบันการมีเพศสัมพันธ์ กลับ กำลังเริ่มต้นด้วยอายุที่ต่ำลงเรื่อย ๆ อย่างน่าตกใจ

·         น่าตกใจเด็กไทยเรียนรู้มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่ 12 ขวบ

 

จากข้อมูลของกรมควบคุมโรค ที่รายงานผลสำรวจพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ในวัยรุ่น ประจำปี 2554 ระบุว่า วัยรุ่นไทยเริ่มมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเมื่ออายุได้ประมาณ 12-13 ปี ต่ำลงจากการสำรวจเมื่อปี 2552 ที่พบว่า วัยรุ่นเริ่มมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกที่อายุ 15-16 ปี และ 18-19 ปี เมื่อปี 2539 ซึ่งทำให้เห็นทิศทางและแนวโน้มที่น่าเป็นห่วง หากการมีเพศสัมพันธ์จะกลายเป็นเรื่องธรรมดาในวัยรุ่นอายุน้อยลงไปกว่านี้ หรืออาจจะเกิดขึ้นในวัยเด็กนั่นเอง

ผลการสำรวจพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ในปี 2554 ฉบับดังกล่าว ยังชี้ให้เห็นด้วยว่า การมีเพศสัมพันธ์กลายเป็นเรื่องปกติในหมู่วัยรุ่น โดยเฉพาะการพูดคุยในสถานศึกษา โดยผลสำรวจนักเรียนระดับมัธยมศึกษาระบุว่า วัยรุ่นหญิงที่ศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 20 เปอร์เซ็นต์ ยอมรับว่า เคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ส่วนวัยรุ่นหญิงในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 40 เปอร์เซ็นต์ ยอมรับว่า เคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกกับคู่ของตัวเองเช่นเดียวกัน


  • ตะลึงแม่วัยใสในปี 2554 มากถึง 1.3 แสนคน 



ขณะที่วัยรุ่นหญิงที่ศึกษาในวิทยาลัยอาชีวศึกษาระดับ ปวช.จำนวนมากถึง 50 เปอร์เซ็นต์ บอกว่า เคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก จึงไม่แปลกที่ในปี 2554 พบว่า วัยรุ่นหญิงอายุ 10-19 ปี คลอดบุตรมากถึง 131,400 คน หรือเฉลี่ยชั่วโมงละ 15 คน หรือร้อยละ 17 ของจำนวนหญิงที่คลอดบุตรทั้งหมดในประเทศไทย ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยการคลอดบุตรในวัยรุ่นระดับโลก ที่มีร้อยละ 11 และสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศในทวีปเอเชีย ที่พบเฉลี่ยร้อยละ 14 อีกด้วย และองค์การยูนิเซฟเองก็เคยระบุว่า มีวัยรุ่นหญิงไทยที่อายุไม่ถึง 20 ปี ต้องตกอยู่ในฐานะ แม่จำนวนสูงถึง 150,000 คน


ความไม่พร้อมในการเลี้ยงดูลูก ทำให้วัยรุ่นตัดสินใจยุติตั้งครรภ์ ส่วนมากใช้วิธีการที่ไม่ปลอดภัย ทำให้เกิดอันตรายและเสี่ยงต่อชีวิต และยังพบวัยรุ่นที่ตั้งครรภ์ติดเชื้อเอชไอวี เพิ่มขึ้น รวมทั้งเป็นกลุ่มที่ติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มากที่สุด ประมาณร้อยละ 30 ของผู้ใช้บริการทั้งหมด ปัญหาเหล่านี้สะท้อนถึงการขาดการตระหนักขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องเพศศึกษา และวิธีการป้องกันที่ถูกต้อง


  • วัยรุ่นกรุงเทพฯ ติดเชื้อเอชไอวีวันละ 6 คน

สำหรับในกรุงเทพฯ ปัญหาสุขภาวะทางเพศยังคงเป็นปัญหาใหญ่ ล่าสุด พ.ญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯกทม. ในฐานะประธานมูลนิธิเอดส์กรุงเทพมหานคร ระบุว่า ปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรในวัยรุ่น เป็นสาเหตุของปัญหาหลากหลาย โดยเฉพาะโรคเอดส์


จากการประมาณการติดเชื้อเอชไอวีของกรุงเทพฯ ในปี 2554 พบว่า มีผู้ติดเชื้อเอชไอวี 55,520 คน มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยวันละ 6 คน สำหรับปี 2555 คาดว่ามีผู้ติดเชื้อเอชไอวี 54,280 คน สาเหตุหลักเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ส่วนการสำรวจอัตราการติดเชื้อเป็นดังนี้ กลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายมีอัตราการติดเชื้อสูงสุดร้อยละ 21.3 รองลงมา กลุ่มผู้ใช้สารเสพติดชนิดฉีดร้อยละ 18.97 และหญิงบริการทางเพศในสถานที่สาธารณะ ซึ่งในส่วนของ กทม.เองได้พยายามที่จะแก้ปัญหานี้โดยมุ่งไปในเรื่องของการป้องกัน โดยเฉพาะการพัฒนาระบบที่เข้าถึงในกลุ่มเด็ก เยาวชน กลุ่มเข้าถึงยากอื่น ๆ  เช่น กลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย ผู้ให้บริการ และผู้ใช้ยาเสพติด ซึ่งก็ทำได้ในระดับหนึ่ง แต่ ปัญหานี้จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย ในการป้องกันการแพร่ระบาดและลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่  

                                                                                            ที่มา : http://tcijthai.com/